นายแพทย์ ซานดุ๊ก  รูอิท

นายแพทย์ ซานดุ๊ก Ruit M.D.

เนปาล
2550 in Public Health


นายแพทย์ ซานดุ๊ก รูอิท
ผู้อำนวยการศูนย์จักษุวิทยาทิลกาลกา (Tilganga Eye Center)
กรุงกาฎมาณฑุ ประเทศเนปาล

นายแพทย์ซานดุ๊ก รูอิท เป็นจักษุแพทย์ในประเทศกำลังพัฒนาที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก ในผลงานการแก้ไขความผิดปกติทางสายตาให้แก่ผู้ป่วยต้อกระจกในประเทศยากจนจำนวนมาก ด้วยวิธีที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ ประหยัดค่าใช้จ่าย และสามารถทำได้แบบครบวงจร ทั้งในส่วนวิธีการผ่าตัด วัสดุทางการแพทย์ และระบบบริการทางสาธารณสุข

นายแพทย์รูอิท ได้พัฒนาวิธีการผ่าตัดต้อกระจกแบบที่ไม่ต้องเย็บ (suture-less operation) ซึ่งมีประสิทธิภาพสูง ใช้ระยะเวลาการผ่าตัดน้อย ทำให้สามารถรักษาผู้ป่วยต้อกระจกในพื้นที่ห่างไกลได้จำนวนมาก และมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาให้เกิดการผลิตเลนส์ตาเทียม (intraocular lens) ซึ่งมีคุณภาพสูง ขึ้นได้ในประเทศกำลังพัฒนาโดยเริ่มที่ประเทศเนปาล ซึ่งเลนส์ที่ผลิตขึ้นนี้มีราคาถูกกว่าเลนส์ตาเทียมที่นำเข้า 50 เท่าทำให้ผู้ป่วยจำนวนมากสามารถได้รับการรักษาโดยวิธีการดังกล่าว ต่อมานายแพทย์รูอิทได้จัดตั้งหน่วยผ่าตัดตาเคลื่อนที่ สำหรับให้การรักษาผ่าตัดผู้ป่วยต้อกระจกในพื้นที่ห่างไกลของประเทศเนปาลและแถบเทือกเขาหิมาลัย โดยพัฒนาวิธีการผ่าตัดที่มีประสิทธิภาพแต่สามารถทำได้ในหน่วยผ่าตัดเคลื่อนที่ ซึ่งต่อมาได้ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ขยายหน่วยผ่าตัดตาเคลื่อนที่นี้ไปสู่ประเทศอื่นๆ เช่น จีน อินเดีย บังคลาเทศ กัมพูชา เวียดนามและเกาหลีเหนือ

นอกจากนี้ นายแพทย์รูอิทและคณะ ยังได้ถ่ายทอดวิธีการผ่าตัดและวิธีการจัดการ ให้แก่ศัลยแพทย์ จักษุแพทย์ และบุคลากรจากประเทศต่างๆ ทั้งในประเทศพัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา ซึ่งได้นำไปให้บริการรักษาผู้ป่วยโรคต้อกระจกแล้ว จำนวนมากกว่า 35 ล้านคนทั่วโลก

ต้อกระจกเป็นสาเหตุสำคัญที่นำไปสู่ภาวะตาบอด โดยร้อยละ 90 ของผู้ป่วยอยู่ในประเทศกำลังพัฒนา การรักษาต้อกระจกโดยการผ่าตัดเอาเลนส์ตาที่เป็นต้อกระจกออกโดยใช้เครื่องสลายต้อแล้วนำเอาเลนส์ตาเทียมเข้าไปใส่แทน มีค่าใช้จ่ายสูงมากสำหรับผู้ป่วยในประเทศยากจน ผลงานของนายแพทย์ซานดุ๊ก รูอิท ในการพัฒนาวิธีการผ่าตัดแบบไร้รอยเย็บและไม่ต้องใช้เครื่องสลายต้อ และพัฒนาการผลิตเลนส์ตาเทียมที่มีคุณภาพสูง รวมทั้งพัฒนาด้านการจัดการโดยสามารถทำได้แบบครบวงจร ด้วยวิธีที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพและประหยัดค่าใช้จ่าย จึงมีบทบาทสำคัญในการแก้ไขและป้องกันภาวะตาบอดจากโรคต้อกระจกในผู้ป่วยจำนวนมากทั่วโลก